"หยก" Jade หมายถึงแร่สองชนิดคือเจไดต์และเนไฟรต์แร่ทั้งสองชนิดนี้มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกันและมีรูปลักษณ์เหมือนกันมาก ซึ่งจะมีสีแตกต่างกันออกไปนับตั้งแต่สีขาวนวลไปจนถึงสีม่วงหรือแม้กระทั่งสีดำและสีเขียว ซึ่งเป็นสีที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดชาติที่มีความเกี่ยวข้องกับหยกมากที่สุดคือชนชาติจีน ชาวจีนนำหยกมาใช้เมื่อ 4,000 ปีมาแล้วหยกฝังแน่นกับวัฒนธรรมหลักปรัชญาและมโนทัศน์ของชาวจีนพูดง่ายๆหยกคือสิ่งหนึ่งสิ่งเดียวกับชนชาติจีนซึ่งมีความเชื่อว่าหยกมีพลังอำนาจพิเศษที่ช่วยคุ้มครองผู้สวมใส่เช่นคนที่ใส่ตกบันไดหรือถูกรถชน แต่สิ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างเดียวคือสร้อยข้อมือหยก หยกจะแตกเป็นเสี่ยงๆหรือไม่ก็หักเป็นสองซีก เพราะว่ามันจะดูดซับผลกระทบจากอุบัติเหตุนั้นไว้และยอมให้ตัวมันเองแตกหัก ก็เลยช่วยชีวิตของคนสวมหรือช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายร้ายแรงขึ้นได้ ใครก็ตามที่เพิ่งประสบเหตุการณ์ทำนองนี้จะรีบออกไปซื้อจี้หยกมาแทนของเก่าทันที ไม่มีใครสนใจจะสวมใส่หยกที่ได้รับการซ่อมใหม่แม้ว่าจะซ่อมออกมาดีก็ตามเพราะพลังอำนาจในการคุ้มครองหมดไปแล้วจึงต้องใช้อันใหม่แทนที่แต่หากทว่าหยกที่ดีที่สุดนั้นมาจากประเทศพม่าหยกพม่ามีคุณสมบัติพิเศษในตัวมีความทนต่อกรด-ด่างสูงมากแม้แต่พวกหยกอาบน้ำ-ย้อมสีราคาถูกยังต้องแช่ในน้ำกรด30-40วันถึงจะนำไปย้อมสีได้เว้นแต่ในเนื้อหยกนั้นมีหินปูนเป็นจุดหรือลายเส้นขาวๆแห้งหยาบอยู่มากก็จะเกิดการกร่อนตามจุดที่มีหินปูนอยู่เนื่องจากหินปูนไม่ทนต่อน้ำ-เหงื่อดังนั้นการใส่หยกติดตัวตลอดเวลาจะไม่มีปัญหาใดๆกลับมีข้อดีคือถ้าหยกได้รับความอุ่นและไอน้ำจากร่างกายสม่ำเสมอสีจะเข้มสดขึ้นมาการดูแลรักษาควรหมั่นใช้แปรงสีฟันขนอ่อนและน้ำยาล้างจานแปรงล้างคราบไคลแล้วเช็ดให้แห้งด้วยผ้าเนื้อละเอียดหรืออาจจะใช้ผ้าชามัวร์ทาด้วย Baby Oil เพียงเท่านี้ก้อเพียงพอแล้วค่ะ
หน้าที่เข้าชม | 114,098 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 82,512 ครั้ง |
เปิดร้าน | 15 ก.พ. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 18 ก.ค. 2568 |
www.facebook.com/pages/Stonestylish/1568542733388219